การจัดการน้ำเสีย ระบบสุขาภิบาลในบ้าน
หลังจากวาง ระบบน้ำภายในบ้าน เรียบร้อยแล้ว หากการบริโภคน้ำผ่านการดื่มและการใช้น้ำเพื่อทำความสะอาดในชีวิตประจำวันแล้ว สิ่งที่แลกมากับการบริโภคน้ำคือการปล่อยน้ำเสีย ทั้งจากร่างการของเราและยังชำระล้างสิ่งรอบตัว ทำความสะอาดสิ่งต่างๆ เพราะเราต้องรักษาบ้านให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อให้ถูกสุขลักษณะ การจัดการน้ำเสีย จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของบ้านควรจะรับทราบไว้เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการกับน้ำเสียในบ้านและซ่อมบำรุงที่จำเป็นจะต้องเกิดขึ้นตลอดการอยู่อาศัย

น้ำเสียจากห้องน้ำ
น้ำเสียจากในบ้านจะมีสองส่วน แบ่งง่ายๆ ก็ตามห้องในบ้าน นั่นคือ น้ำเสียจากห้องครัว ที่มักเป็นการทำความสะอาดและชะล้างคราบไขมันสิ่งสกปรกที่มาจากอาหาร และน้ำเสียจากห้องน้ำ ที่เป็นสิ่งปฏิกูลและของเสียจากร่างกาย
ความแตกต่างระหว่างเส้นทางของน้ำเสียทั้งสองส่วนนี้ นั่นคือน้ำเสียจากห้องครัวประกอบด้วยเศษอาหาร การเดินระบบท่อจึงจำเป็นต้องติดตั้งที่ดักกลิ่นใต้อ่างเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นย้อนกลับทางเดินท่อ รวมทั้งสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งคือการติดตั้งถังดักไขมันก่อนระบายน้ำสู่ท่อระบายน้ำหลัก ดังนั้นเราจึงมักได้ยินว่า อย่าทิ้งขยะหรือเศษอาหารลงในชักโครก เพราะในส่วนน้ำเสียจากห้องน้ำไม่มีระบบถังดักไขมันเหมือนเส้นทางของน้ำเสียจากห้องครัว จึงจะส่งกลิ่นเหม็นจากการหมักหมม ของเศษอาหาร

ขนาดท่อและความลาดเอียงเรื่องสำคัญ
- ขนาดท่อและความลาดเอียงเรื่องสำคัญ
ขนาดท่อก็เป็นเรื่องหลักที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ นั่นก็เพราะรูปแบบของสิ่งปฏิกูลมีผลต่อการเลือกใช้ขนาดท่อให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้ลำเลียงของเสียได้อย่างสะดวกไม่มีติดขัด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ของเสียจากสุขภัณฑ์มักเลือกใช้ขนาดท่อที่ใหญ่กว่าท่อสำหรับน้ำเสียจากส่วนอื่นๆ ของบ้าน ได้แก่ น้ำเสียจากห้องครัวและน้ำเสียจากห้องน้ำในส่วนอ่างล้างมือ ส่วนอาบน้ำ และการระบายน้ำเสียจากพื้น เพราะรูปแบบของกากอาหารที่ทำให้ต้องใช้ท่อใหญ่กว่า รวมทั้งการวางองศาของทางเดินท่อให้มีความเอียงมากกว่า เพื่อให้ระบายของเสียได้อย่างลื่นไหล
โดยท่อสำหรับน้ำเสียจากส่วนต่างๆ ภายในบ้าน มักใช้ท่อชนิด PVC สีฟ้า ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 นิ้ว ส่วนท่อลำเลียงสิ่งปฏิกูลจากสุขภัณฑ์อยู่ที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 นิ้ว และเพราะระบบระบายน้ำเกิดขึ้นจากการไหลของน้ำลงสู่ท่อด้านใต้ อีกส่วนที่ต้องให้ความสำคัญคือระดับความลาดเอียงเพื่อให้ลำเลียงน้ำได้สะดวก โดยท่อสำหรับน้ำเสียขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 3 นิ้ว ควรใช้ความลาดเอียงไม่น้อยกว่า 1:50 นั่นคือ ทุกระยะ 50 ซม. ระดับท่อจะลดลง 1 ซม. ส่วนท่อที่มีขนาด 4-6 นิ้ว ควรใช้ความลาดเอียงไม่น้อยกว่า 1:100
อีกจุดที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญคือข้อต่อและรอยต่อต่างๆ ของท่อ การติดตั้งควรเช็กให้แน่ใจว่าต่อแนบสนิทแน่นหนา ไม่มีรอยรั่วซึมระหว่างท่อให้ต้องมาคอยตามแก้เป็นเรื่องใหญ่กันภายหลัง

ถังดักไขมัน
- เส้นทางของระบบสุขาภิบาล
จากน้ำเสียส่วนห้องครัวซึ่งมีเศษอาหารและกากไขมัน จำเป็นต้องผ่านการดักขยะชิ้นใหญ่ก่อนขั้นแรก ก่อนจะผ่านสู่ถังดักไขมัน เพื่อกรองน้ำเสียให้ปลอดจากเศษอาหารและกลิ่นหมักหมม ซึ่งส่วนถังดักไขมันสามารถติดตั้งต่อจากน้ำเสียส่วนห้องครัวได้โดยตรง หรือจะติดตั้งหลังจากรวมน้ำเสียทุกส่วน (ยกเว้นของเสียจากสุขภัณฑ์) เข้าด้วยกันก็ได้ แล้วจึงต่อเข้าสู่บ่อพักดักกลิ่นเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นที่จะตีย้อนกลับมาที่ท่อต้นทาง
จากนั้นน้ำเสียที่ผ่านการดักไขมันและดักกลิ่นแล้ว จะมารวมกันกับสิ่งปฏิกูลจากสุขภัณฑ์เพื่อส่งต่อไปยังถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป ที่สะดวกและมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าบ่อเกรอะบ่อซึมแบบสมัยก่อน ซึ่งขนาดของถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะกับแต่ละบ้านขึ้นอยู่กับจำนวนผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ โดยยึดตามคู่มือที่แนบมาของแต่ละแบรนด์ได้เลย
อีกส่วนเสริมที่ช่วยให้การระบายน้ำเสียทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คือการติดตั้งระบบท่อระบายอากาศ เพื่อป้องกันปัญหาการติดขัดของอากาศภายในทางเดินท่อ เพราะท่อน้ำในบ้านไม่ได้มีระบบแรงดันที่ช่วยขับให้น้ำเดินทางได้ดี ใช้แค่ความลาดเอียงเป็นตัวลำเลียงน้ำเท่านั้น ท่อระบายอากาศจะทำให้น้ำเสียเดินทางออกสู่ปลายทางที่บ่อพักน้ำที่รวบรวมตะกอนของเสียขั้นสุดท้าย ก่อนส่งออกน้ำเสียทั้งหมดท่อระบายน้ำนอกอาคารได้สะดวกยิ่งขึ้น
งานระบบสุขาภิบาลอาจเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเจ้าของบ้านในตอนติดตั้ง แต่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดูแลรักษาตลอดอายุการใช้งานของบ้าน เพราะระบบพวกนี้ถูกซ่อนอยู่ใต้ดินในบริเวณบ้าน และหากเกิดปัญหาภายในบ้านขึ้นแล้ว การรู้จักระบบจะช่วยให้เราแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้โดยไม่ต้องไปเสียเวลารื้อค้นหาให้ลำบากกายและลำบากเงิน
อ้างอิง : mthai.com
Pingback: การเดินท่อประปา - บริษัท รับสร้างบ้าน โฮมสเปซ (HOME SPACE)