ผลงานรับสร้างบ้านของโฮมสเปซ 178
รับชมภาพความประทับใจ ผลงานของเรา บริษัทรับสร้างบ้าน โฮมสเปซ (Homespace) ผลงานสร้างบ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้น อาคารพาณิชย์ โรงงาน รีสอร์ท สร้างเสร็จเร็ว เข้าอยู่ไว วัสดุคุณภาพสูงพร้อมการควบคุมงานจากวิศวกรวิชาชีพ
รับชมภาพความประทับใจ ผลงานของเรา บริษัทรับสร้างบ้าน โฮมสเปซ (Homespace) ผลงานสร้างบ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้น อาคารพาณิชย์ โรงงาน รีสอร์ท สร้างเสร็จเร็ว เข้าอยู่ไว วัสดุคุณภาพสูงพร้อมการควบคุมงานจากวิศวกรวิชาชีพ
วัสดุปิดผิวสำหรับงานตกแต่งภายใน
1.วัสดุปิดผิวที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ วัสดุธรรมชาตินั้นได้แก่ หินแกรนิต หินอ่อน ไม้จริง
2.วัสดุปิดผิวที่ไม่ได้ทำจากวัสดุธรรมชาติ วัสดุที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ ได้แก่ วัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมา เช่น กระดาษ พลาสติก หินสังเคราะห์
วัสดุแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติ จุดดี จุดด้อย ที่ต่างกัน ทั้งในเรื่องความสวยงาม ความแข็งแรงคงทนทานเพื่อการเลือกใช้อย่างถูกต้องต่อไป
วัสดุปิดผิวชนิดต่างๆ
- แกรนิต มีความคงทนสูง ให้ความรู้สึกหรูหรา แข็งแกร่ง มั่นคง แต่มีน้ำหนักมาก ส่วนนำมาปิดเป็นท๊อปเพื่อกันน้ำ กันกระแทก แต่มีราคาสูง
- หินอ่อน มีความสวยงาม มีลายที่เป็นแร่ธรรมชาติให้เลือกหลากหลายและไม่เหมือนกัน หินอ่อนทนทานระดับหนึ่งแต่แพ้สารเคมีต่างๆ นิยมนำมาทำท๊อป แต่ก็มีน้ำหนักมากเช่นกันและราคาสูง
- หินสังเคราะห์ มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อสารเคมีได้ดี น้ำหนักเบา แต่ราคาสูงมาก
เราจะเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นจะมีวัสดุที่เป็นลายไม้ร่วมด้วยเสมอ อาจไม้ได้ใช้หินปิดผิวทั้งตัว เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย
- ไม้จริง มีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าวัสดุที่ทำเลียนแบบไม้ มีข้อดีกว่าคือ มีผิวสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ ลายไม้สวย หากใช้งานไปแล้วมีการกระแทก เฉี่ยว ชน ก็ยังเห็นเนื้อในเป็นไม้ธรรมชาติอยู่ แต่มีราคาสูง ยิ่งเป็นไม้สักจะมีราคาสูงกว่าไม้ชนิดอื่น ไม้ยิ่งหนายิ่งแพง หน้ายิ่งกว้างยิ่งแพงขึ้น
- ผิวกระดาษ (Paper Foil หรือ P.U. Paper) คือ กระดาษพิมพ์ลวดลายต่างๆปิดหน้าด้วยกาว แล้วเคลือบด้วยเรซิน(Resin)ที่มีลักษณะใส เช่น แลคเกอร์(Lacquer) กรดอะมิโน(Amino acid) หรือโพลียูริเทน(polyurethane) ที่นิยมใช้มากที่สุด คือ โพลียูริเทน เพราะจะได้ความแข็งที่มากและสามารถกันความชื้นและความร้อนได้พอสมควร ความแข็งแรงจะขึ้นอยู่กับความหนาcแะวัสดุที่ใช้เคลือบ ส่วนใหญ่ใช้ในการปิดผิวชุดเฟอร์นิเจอร์ราคาถูก เช่น ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน ชั้นวางของ เป็นต้น
- ผิวพีวีซี (P.V.C : Polyvinyl Chloride) คือ วัสดุที่ทำจากพลาสติกและมีการพิมพ์ลายเลียนแบบสีไม้ธรรมชาติ ซึ่งมีความหนาประมาณ 0.15 มิลลิเมตร เพื่อนำมาใช้ในการปิดผิวไม้ โดยใช้กาวและใช้ความร้อนสูงเป็นตัวเชื่อม เพื่อให้ติดกับผิวไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนใหญ่ใช้ในการปิดบนผิวชิ้นงาน เพื่อป้องกันรอยขูดขีดหรือการซึมของน้ำที่จะมาทำความเสียหายต่อชิ้นงาน เช่น โต๊ะคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน ตู้เอกสาร เป็นต้น
คุณสมบัติของผิวพีวีซี คือ สามารถทนความร้อน ความชื้น และรอยขีดข่วนได้ปานกลาง มีให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น สีไม้ สีหินทราย และสีพื้นต่างๆ เป็นต้น
- ผิวเมลามีน (Melamine Paper Films Foil) คือ วัสดุที่ทำจากกระดาษหลายๆ ชั้นอัดแน่นทับกันและเคลือบเงา พร้อมพิมพ์ลายเลียนแบบสีไม้ธรรมชาติเพื่อนำมาใช้ในการปิดชิ้นงานมีความหนา ประมาณ 0.3-0.4 มิลลิเมตร แต่วิธีการปิดนั้นแตกต่างจาก ผิวพีวีซี(P.V.C Sheet) เพราะการปิดโดยใช้เมลามีน คือ การนำแผ่นเมลามีนมาปิดทับบน Particleboard โดยใช้ความร้อนสูงเป็นตัวเชื่อม จะมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเคลือบผิวบนโต๊ะทำงาน โต๊ะคอมพิวเตอร์ โต๊ะประชุม โต๊ะผู้บริการ หรือชุดครัว คุณสมบัติของเมลามีน คือ สามารถทนความร้อน ความชื้น และรอยขีดข่วนได้ดี มีอายุการใช้งานที่นาน
ผิวลามิเนตแรงอัดดันสูง (Formica หรือ HPL:High Pressure Laminate) ตามท้องตลาดทั่วไป เรียกกันติกปากว่า แผ่นลามิเนต หรือ ฟอร์ไมก้า เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับไม้จริง ถ้ามองเผินๆ อาจจะแยกไม่ออก เนื่องจากมีการพัฒนาให้มีลวดลายที่เหมือนไม้ธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถทำสีได้ใกล้เคียงกับเนื้อไม้จริงอีกด้วย ความหนาของแผ่น ประมาณ 0.6-1.0 มิลลิเมตร การนำแผ่นแผ่นลามิเนตมาใช้งาน โดยส่วนมากจะนำไปทากาวเพื่อปิดทับบนแผ่นผลิตภัณฑ์หรือนำไปเข้าเครื่องรีดอัด แผ่นลามิเนตโดยเฉพาะ คุณสมบัติของแผ่นลามิเนต คือ แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก ความร้อน ทนทานต่อการขูดขีด และทำความสะอาดง่าย มีพื้นผิว และสีสันให้เลือกหลากหลาย ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับงานออกแบบตกแต่งภายใน อาทิเช่น ผนัง ฝ้า เพดาน และเฟอร์นิเจอร์ มีอายุการใช้งานที่นาน และยังทนความร้อนได้ดีกว่า ผิวกระดาษ ผิวพีวีซี และผิวเมลามีนอีกด้วย
- ไม้บาง หรือ วีเนียร์ (Veneer) คือ ไม้แผ่นบางที่มีความหนาไม่เกิน 3 มิลลิเมตร ผลิตจากการฝานผิวเนื้อไม้ออกเป็นแผ่นบางๆ แล้วนำไปอบและรีด เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุตกแต่งบ้าน หรือใช้เป็นวัสดุปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ไม้ ความสวยงามของไม้วีเนียร์เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งไม้แต่ละชนิดจะให้ความ สวยงามและเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป วิธีการฝานไม้ก็เป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อความสวยงามของวีเนียร์ คุณสมบัติของวีเนียร์ คือ มีความสวยงามให้ผิวสัมผัสที่เป็นเนื้อไม้ตามธรรมชาติ ทนต่อความชื้นและรอยขูดขีดได้พอใช้ และราคาสูง
ที่มา : www.wazzadu.com โดย : Encyclopedia
ท่อน้ำไทย : ท่อพีวีซี ท่อ PVC ท่อประปา ข้อต่อ PVC ข้องอ PVC ชั้นคุณภาพ 5 8.5 13.5 มม.
ท่อพีวีซีแข็งสำหรับเป็นท่อน้ำดื่ม ตรา ท่อน้ำไทย วัสดุทำจากเม็ดพีวีซีชั้นดี ไม่เปราะหรือแตกง่าย มีผิวเรียบมัน ทนต่อสภาวะอากาศ ความชื้น ไม่เป็นสนิม ไม่ลามไฟ รวมถึงไม่ต้องบำรุงรักษามากนัก เหมาะสำหรับงานสาธารณูปโภค สุขาภิบาล ไฟฟ้า และการเกษตร โดยสีฟ้านิยมใช้ในงานน้ำ อายุการใช้งานเฉลี่ย 25 ปี ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเป็นพิเศษ High Corrosion Resistance ทนทานต่อสารเคมีเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกรด หรือ ด่าง เกลือ
ท่อพีวีซี PVC (Polyvinyl Chloride) สีฟ้า ผลิตขึ้นตามมาตรฐาน มอก. 17-2532 เป็นท่อที่นิยมนำมาใช้ในงานสุขาภิบาลในอาคาร เช่น ใช้เป็นท่อน้ำประปาซึ่งต้องรับแรงดันน้ำ หรือใช้กับระบบปั๊มน้ำ ซึ่งต้องเลือกใช้มาตรฐานท่อขนาด pvc 8.5 หรือ pvc 13.5 แต่ถ้าใช้เป็นท่อระบายน้ำทิ้งหรือท่อน้ำโสโครกซึ่งไม่มีแรงดันน้ำ ให้เลือกใช้มาตรฐานท่อขนาด pvc 5 ซึ่งการระบุท่อ pvc 5, pvc 8.5 และ pvc 13.5 เป็นการระบุถึงความสามารถในการรับแรงกดดันได้ของท่อ มีหน่วยเป็น กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร ท่อ พีวีซี สีฟ้า เหมาะกับการใช้งาน ภายในอาคาร หรือในที่่ร่มเท่านั้น ไม่ควรใช้กับภายนอกอาคารที่ต้องสัมผัสกับแสงแดด และไม่ควรใช้ติดต่อกันไปกับอาคารที่มีโอกาสทรุดตัวได้ง่าย เพราะจะทำให้ท่อแตกหักหรือฉีกขาดออกจากกันได้
เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่าง เช่น มีความเหนียว ยืดหยุ่นตัวได้ ทนต่อแรงดันน้ำได้ดี ทนทานต่อการกัดกร่อนของกรดหรือด่างได้ดี ใช้เป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี เพราะไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า เป็นวัสดุไม่ติดไฟ ผิวมันเรียบ ช่วยให้การไหลของน้ำได้ดี มีน้ำหนักเบาและราคาถูก แต่มีข้อด้อยอยู่บ้าง เช่นมีความเปราะ ไม่ทนทานต่อแรงกระแทก ไม่ทนทานต่อแสง UV เพราะจะทำให้กรอบและแตกหักได้ ท่อ pvc ที่นิยมใช้ในงานก่อสร้าง แบ่งได้เป็น ท่อสีฟ้า ท่อสีเหลือง ท่อสีขาว ท่อสีเทา
สามารถอ่านบทเพิ่มเติมได้ที่ ท่อน้ำประปา พีวีซี
อ้างอิง : www.onestockhome.com
อิฐมวลเบา
อิฐมวลเบา หรือ คอนกรีตมวลเบา เป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะมีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนได้มากกว่าอิฐชนิดอื่น โดยมีส่วนผสมมาจาก ทราย ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนขาว น้ำ ยิปซั่ม และผงอลูมิเนียม แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือฟองอากาศเล็กๆ เป็นรูพรุนไม่ต่อเนื่องที่อยู่ในเนื้อวัสดุมากประมาณ 75% ทำให้อิฐชนิดนี้มีน้ำหนักเบา ช่วยให้ประหยัดโครงสร้าง รวมถึงฟองอากาศเหล่านี้ยังเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี นอกจากนี้ อิฐมวลเบา ยังมีคุณสมบัติที่เด่นกว่าอิฐประเภทอื่นตรงที่ ทนทานต่อไฟ แข็งแรง รับแรงกดได้มาก สะดวกในการก่อสร้าง ใช้เวลาไม่นาน แต่ก็มีข้อด้อยตรงที่ ราคาอิฐมวลเบา จะสูงกว่าอิฐชนิดอื่นๆ
สำหรับ อิฐมวลเบา เหมาะกับการก่อสร้างในส่วนผนังหลักของบ้าน กับผนังคอนกรีตมวลเบาทั่วไปภายในอาคาร บ้าน หรือห้องที่ต้องการความเย็นสบาย และเก็บเสียงได้ดี ซึ่งสิ่งสำคัญในการนำ อิฐมวลเบา มาใช้ก็คือ ช่างที่ทำการก่อสร้างต้องมีประสบการณ์และมีฝีมือที่ละเอียดในระดับหนึ่ง เพื่อให้ได้ผนังอิฐมวลเบาที่มีคุณภาพ
อิฐมอญ
อิฐมอญ คือวัสดุก่อสร้างที่หาได้ง่าย มีเอกลักษณ์คือสีแดง ผลิตมาจากการนำดินเหนียวมาเผาเพื่อให้ได้วัสดุที่คงรูปและมีความแข็งแรง เป็นอิฐอีกประเภทที่ใช้ในงานก่อสร้างมาหลายสิบปี เพราะมีคุณสมบัติพิเศษที่ความคงทนต่อสภาพอากาศทั้งร้อนชื้นของไทย ทนแดด ทนฝน ได้ดี จึงนิยมนำมาใช้กับงานผนังโดยเฉพาะบริเวณที่ใช้งานเฉพาะช่วงกลางวัน หรือบริเวณภายนอกบ้าน สามารถผลิตได้เองในประเทศไทยจึงราคาถูก ช่างทั่วไปมีความชำนาญ ส่วนข้อเสียของ อิฐมอญ อยู่ที่มีน้ำหนักเยอะ นำมาใช้งานยากเพราะขนาดไม่มีมาตรฐานตายตัว รวมถึงอาจทำให้บ้านร้อนด้วย เพราะ อิฐมอญ เป็นวัสดุที่สะสมความร้อน และจะถ่ายเทความร้อนเข้าสู่บริเวณที่อุณหภูมิต่ำกว่า ทำให้ห้องต่างๆ ในบ้านร้อน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันข้อด้อยของอิฐมอญจึงควรก่ออิฐมอญแบบ 2 ชั้น จะช่วยลดการถ่ายเทความร้อนและยังช่วยป้องกันเสียงเข้าภายในตัวบ้าน
อิฐมอญนั้นต้องทำการก่อด้วย ปูนซีเมนต์ผสมทราย(ปูนมอร์ตาร์) หนา 2-3 ซม.โดยรอบ จึงจะทำให้มีความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก เช่น แขวนทีวี แขวนตู้ลอย นอกจากงานผนังแล้วยังนำมาใช้กับงานเก็บรายละเอียดเล็กๆ อย่าง การเจาะช่องประตู หน้าต่าง หรือปิดช่องแคบๆ ได้โดยไม่ต้องตัดอิฐให้เหลือเศษเยอะอีกด้วย
อ้างอิง : blog.dbp.co.th
สีทาภายในและภายนอก
ผนังภายนอก สีพลาสติกชนิทาภายนอกของผู้ผลิต TOA รุ่น 4 season เช็ดล้างได้ (สีรองพื้นปูนใหม่ 1 เที่ยว สีจริง 2 เที่ยว)
ผนังภายใน สีพลาสติกชนิดทาภายในของผู้ผลิต TOA รุ่น TOA 4 Season (สีรองพื้นปูนใหม่ 1 เที่ยวสีจริง 2 เที่ยว)
ของผู้ผลิด DOS
ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปนั้น – จะรวมระบบบ่อเกรอะและบ่อซึมไว้ในถังเดียวกัน จึงสะดวกและใช้งานได้ง่ายกว่า น้ำที่ผ่านกระบวนการในถังบำบัดน้ำเสียจะมีความสะอาดเพียงพอที่จะปล่อยลงสู่รางระบายน้ำสาธารณะได้ แทนการซึมลงสู่ดิน ซึ่งมักก่อปัญหาขึ้นอยู่บ่อยๆ ถังบำบัดน้ำเสียมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบไม่เติมอากาศ และแบบเติมอากาศ (Aerobic Bacteria) ซึ่งจะใช้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงแบคทีเรียเพื่อช่วยเร่งปฏิกิริยาทางชีวเคมี ทำให้กระกวนการย่อยสลายสารอินทรีย์มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ระบบบ่อเกรอะบ่อซึมยังสามารถใช้งานได้ หากเป็นพื้นที่ตามชนบทที่มีสภาพดินตามธรรมชาติ ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป ผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชนเมืองที่มีสภาพดินเป็นดินเหนียว น้ำซึมลงดินได้ยาก ทั้งนี้เราสามารถเลือกใช้ได้ตามลักษณะบริบทของที่อยู่อาศัย และงบประมาณที่มีอยู่ส่วนการบำรุงรักษาถังบำบัดน้ำเสียนั้น เป็นเรื่องที่ยากพอควร เนื่องจากตัวถังจะฝังอยู่ใต้ดิน แต่วัสดุที่นำมาใช้ผลิตถังอย่างพอลิเอทีลีน ( Polyethylene ) ก็มีความแข็งแรง และมีอายุการใช้งานนานกว่า 10 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ดีเราก็ควรช่วยยืดอายุของถังให้ยาวนานมากขึ้นด้วย โดยต้องสูบสิ่งปฏิกูลต่างๆที่เหลือจากการบำบัดของจุลินทรีย์ ซึ่งจมอยู่ก้นถังทิ้งออกไปบ้าง เพื่อไม่ให้ตะกอนตกค้างมากเกินไปจนก่อให้เกิดคราบฝังแน่นภายในถัง ทั้งนี้ควรทำการสูบกากของเสียและตะกอนทิ้งเพื่อทำความสะอาด ประมาณ 3-5 ปี หรือสังเกตได้จากกรณีที่เราใช้ห้องน้ำแล้วกดชักโครกหรือราดน้ำไม่ลง ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์
ที่มา : www.baanlaesuan.com
ใช้ของผู้ผลิต American Standard หรือของผู้ผลิต Cotto
วิศวกรรมอันชาญฉลาด สุขภัณฑ์จากอเมริกันสแตนดาร์ดที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล่าสุดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ, ความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยให้ถึงจุดสูงสุด ด้วยคุณภาพอย่างที่คุณคาดหวัง
สุขภัณฑ์เป็นองค์ประกอบสำคัญในการที่จะมีห้องน้ำที่ยอดเยี่ยม นอกเหนือจากรูปลักษณ์ ก็ยังมีลักษณะและคุณสมบัติอีกมากมาย ที่ควรจะพิจารณาเวลาเลือกสุขภัณฑ์ที่เหมาะกับห้องน้ำของคุณ เช่น ขนาด, ความสูง, ระบบกดชำระเป็นต้นสุขภัณฑ์ทั้งหมดไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะหาสุขภัณฑ์ที่เข้ากับงบประมาณและการดำเนินชีวิตของคุณได้ดีที่สุด
รายการต่อไปนี้เป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณาในการเลือกสุขภัณฑ์ใหม่…
แบบ Siphonic หรือแบบ Wash Down?
Siphonic
ในสุขภัณฑ์แบบ Siphonic ท่อพักน้ำทิ้งจะมีการเติมน้ำในระหว่างการกดสุขภัณฑ์ เพื่อเริ่มต้นการ กาลักน้ำที่จะ “ดึง” วัตถุออกจากโถในขณะที่น้ำจากแทงก์น้ำจะไหลเข้าสู่ในโถผ่านทางเจ็ทและขอบโถเพื่อ “ผลัก” วัตถุออกไป การผลักและการดึงที่เกิดขึ้นพร้อมกันจะชะล้างโถได้ในระหว่างทุกการกดชำระ
Wash Down
ในสุขภัณฑ์แบบ Wash Down น้ำจากแทงก์น้ำจะไหลเข้าสู่โถและล้างวัตถุลงไปตามท่อระบาย โดยจะเป็น “การผลัก” อย่างเดียวเท่านั้น และจะไม่ถ่ายเทออกจากโถสุขภัณฑ์ประเภทนี้จะมีพื้นที่หน้าตัดของน้ำในโถขนาดเล็ก (4 นิ้ว x 5 นิ้ว) ที่จะอยู่ลึกลงไปในโถ
สุขภัณฑ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่เป็นแบบ Siphonic ส่วนสุขภัณฑ์ของทางยุโรปจำนวนมากจะเป็นแบบ Wash Down ทางประเทศจีนมักจะเป็นแบบ Siphonic ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิกจะเป็นแบบ Wash Down
ระบบกดสุขภัณฑ์แบบใดที่เหมาะสำหรับคุณ?
ถ้าคุณมีการใช้งานอย่างหนัก และห้องส้วมมีแนวโน้มที่จะอุดตัน คุณควรพิจารณาระบบกดชำระที่มีประสิทธิภาพสูง วาล์วกดชำระที่มีขนาดใหญ่ (เส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 2 นิ้ว) จะส่งน้ำได้เร็วและแรงกว่า และท่อพักน้ำที่ใหญ่กว่า (เส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 2 นิ้ว) ก็จะมีการเคลื่อนย้ายของวัสดุได้มากขึ้นทำให้ไม่อุดตัน
ระบบ Double Vortex Flushing
ระบบ Double Vortex Flushing จะให้ประสิทธิภาพการทำงานในการกดชำระ มากที่สุด แต่ใช้น้ำปริมาณน้อยที่สุด การออกแบบโถสุขภัณฑ์จะช่วยขับเคลื่อนน้ำไปข้างหน้า และทำให้เกิดโมเมนตัมในการกดชำระที่แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นระบบโถสุขภัณฑ์ที่ไร้ขอบซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดทั้งภายในโถสุขภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ป้องกันคราบสกปรกจากการสะสมตัว ด้วยการออกแบบโถแบบไร้ขอบทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเพราะไม่มีคราบสกปรกสะสมในขณะที่ช่วยประหยัดน้ำอีกด้วย
* มีในสุขภัณฑ์รุ่น Acacia Evolution
ระบบ SiphonMax Flushing
ระบบ SiphonMax Flushing ให้ประสิทธิภาพในการกดชำระขั้นสูง สำหรับทั้งสิ่งปฏิกูลที่หนักและเบา ท่อพักน้ำทิ้งของโถสุขภัณฑ์จะถูกเติมน้ำจากทั้งสองช่องทางด้านข้าง และเริ่มต้นการกาลักน้ำที่แข็งแรงเพื่อกำจัดสิ่งปฏิกูลทั้งแบบหนักและเบา
* มีในสุขภัณฑ์รุ่น Neo Modern, Nobile, Milano one-piece
การประหยัดน้ำสำคัญสำหรับคุณหรือไม่?
ในแต่ละส่วนของประเทศ พบปัญหาการน้ำที่แตกต่างกัน ระบบกดชำระแบบดูอัล ฟลัช จะช่วยประหยัดน้ำ ทั้งในเชิงของระบบนิเวศและเศรษฐกิจ American Standard มีสุขภัณฑ์ Double Vortex ที่ใช้น้ำ 2.6 ลิตรสำหรับการกดชำระแบบเบา และใช้น้ำ 4 ลิตร สำหรับการกดชำระแบบหนัก ซึ่งเท่ากับการประหยัดน้ำประมาณ 22,776 ลิตรต่อปี สำหรับครอบครัวแบบ 4 คน
* การประหยัดน้ำคิดจากสุขภัณฑ์แบบกดสุขภัณฑ์เดี่ยว กับสุขภัณฑ์แบบ Double Vortex
ชิ้นเดียวหรือสอง?
ชิ้นเดียว
สุขภัณฑ์แบบ “ชิ้นเดียว” ในความเป็นจริงแล้วประกอบด้วยชิ้นส่วนหกถึงสิบชิ้นประกอบกันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งมีทั้งแทงก์น้ำและโถสุขภัณฑ์ ซึ่งจะได้เป็นสุขภัณฑ์ที่มีรูปทรงเพรียวบางราวแกะสลักมือ และไม่มีรอยแตกระหว่างแทงก์น้ำและโถสุขภัณฑ์ที่จะกักเก็บคราบสกปรกและกลิ่น
สองชิ้น
สุขภัณฑ์แบบ “สองชิ้น” มีโถสุขภัณฑ์แยกออกจากแทงก์น้ำโดยจะถูกยึดเข้าด้วยกัน โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมดจะมี “ส่วนกักน้ำเสีย” ที่เป็นส่วนของท่อสุขภัณฑ์ที่ถูกยกขึ้นที่ด้านหลังของโถสุขภัณฑ์ที่ติดตั้งแทงก์น้ำไว้ พื้นที่ส่วนที่ยกขึ้นนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเขื่อนดักเพื่อที่วัตถุสกปรกจะถูกทำความสะอาดและไม่เก็บสะสมจนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นระหว่างโถสุขภัณฑ์และแทงก์น้ำ
ความสะอาดสำคัญกับคุณมากเพียงใด?
พิจารณาถึงพื้นผิว ComfortClean™ ที่เป็นสารเคลือบผิวเรียบซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งถูกนำมาใช้เคลือบด้านบนของการเคลือบเงาปกติ และนำไปเผาที่ด้านในของโถสุขภัณฑ์ ทำให้สุขภัณฑ์มีผิวที่เรียบเนียนเป็นพิเศษ ทำให้สุขภัณฑ์สะอาดเสมอ เพราะคราบสกปรกยากที่จะเกาะติดสะสม และยังสะอาดเพราะไม่ทำให้มีการเติบโตของคราบสกปรกและกลิ่นจะทำให้เกิดแบคทีเรีย, และเชื้อราบนพื้นผิว คุณสมบัตินี้พบได้ในสุขภัณฑ์รุ่นเทคโนโลยีชั้นสูงของ American Standard เช่น Acacia Evolution, Milano, Neo Modern, Concept Nuovo และ Flexio เป็นต้น
คุณชอบรูปแบบใด?
American Standard มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบบคลาสสิกไปจนถึงแบบทันสมัย และแบบนำสมัย แบบทันสมัยที่เป็นที่นิยมคือ Acacia Evolution และ Neo Modern ส่วนแบบนำสมัยที่เป็นที่นิยมคือ Concept Nuovo ที่เป็นการผสมผสานเข้าคู่กันอย่างดีเยี่ยม และ Compact Codie ที่ให้คำตอบที่ดีสำหรับปัญหาด้านพื้นที่
สุขภัณฑ์แบบหน้ากลมหรือแบบทรงยาว?
สุขภัณฑ์แบบหน้ากลมมีความกะทัดรัดเหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก ส่วนสุขภัณฑ์แบบทรงยาวจะมีพื้นที่ด้านหน้าเพิ่มขึ้น ทำให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น American Standard ยังมีฝารองนั่งอัตโนมัติแบบไม่ใช้ไฟฟ้า และฝารองนั่งอัตโนมัติแบบใช้ไฟฟ้า ที่จะเข้ากันและทำงานร่วมกันได้อย่าง 100% กับสุขภัณฑ์ที่เลือกไว้ก่อนของ American Standard
คุณต้องการโถสุขภัณฑ์ที่สูงหรือไม่?
หลายคนพบว่าโถสุขภัณฑ์ที่สูงจะมีความสะดวกสบายมากขึ้น American Standard จึงมีตัวเลือกโถสุขภัณฑ์ที่มี “ความสูงที่เหมาะสม” สำหรับเกือบทุกรุ่น โดยจะมีความสูงจากพื้นถึงฝารองนั่งสุขภัณฑ์ระหว่าง 400-430 มม. ซึ่งเป็นไปตามความสูงตามหลักสรีระของเก้าอี้ที่จะอยู่ระหว่าง 350 มม. – 510 มม. ทำให้ง่ายต่อการนั่ง และลุกขึ้นจากสุขภัณฑ์ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงวัย, สตรีมีครรภ์ และผู้พิการ
ขนาดและความต้องการคร่าวๆ ของคุณคืออะไร?
สุขภัณฑ์มีหลายหลายขนาดมากมาย ดังนั้นจะต้องตรวจสอบความกว้าง, ความลึก และความสูงของพื้นที่ที่รองรับของคุณ สุขภัณฑ์ส่วนใหญ่จะถูกยึดกับพื้นโดยห่างจากผนังประมาณ 12 นิ้ว (ไม่นับแผ่นฐาน) ซึ่งเป็นขนาด “คร่าวๆ” ดังนั้นวัดขนาดก่อนเพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่คุณต้องการ
การประกันคุณภาพ
สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมดผ่านการทดสอบอย่างเต็มที่เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพขั้นสูงและการทำงานที่ยาวนาน ซึ่งรวมถึงการทดสอบการกดสุขภัณฑ์จริงของแต่ละโถสุขภัณฑ์ที่โรงงานก่อนที่จะบรรจุลงกล่อง ส่วนประกอบแต่ละชิ้นจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานความทนทานของ American Standard ที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป
ที่มา : American Standard
ใช้ลูกบิดสแตนเลส hafele
วัสดุ: สแตนเลส
สี: สแตนเลสด้าน
คุณสมบัติ
• เหมาะสำหรับบานประตูไม้แบบไม่มีบังใบ
• เหมาะสำหรับทั้งบานเปิดซ้ายและขวา
• รุ่นประตูทางเข้าและรุ่นประตูห้องน้ำ
• เหมาะสำหรับบานหนา 35-45 มม.
• ระยะเจาะตลับกุญแจ 60 มม.
• ขนาดลูกบิด 53 มม.
• ขนาดจาน 75 มม. แบบหนา
• ระบบ 5 พิน (เฉพาะรุ่นประตูทางเข้า)
• ติดตั้งแบบระบบเกลียวทั้งสองด้าน
ที่มา : www.hafelethailand.com
บาน HDF สีขาวหรือสีน้ำตาล
ประตูHDFเป็นบานประตูสำหรับงานภายในอาคาร ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง
โครงสร้างบานประตูHDF กรอบบานประตูHDF เป็นไม้จริงความหนา 35 มิลลิเมตร ความกว้างของกรอบบานไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร ส่วนนี้เป็นส่วนรับน้ำหนักของบานประตู ให้บานประตูไม่โก่งตัว โครงสร้างภายในกรอบบาน ประกอบด้วยชิ้นไม้ความหนาไม่น้อยกว่า 15 มิลลิเมตร (มาตรฐาน มอก.192-2549) สำหรับบานประตู HDF รุ่นทั่วไป โครงสร้างภายในเป็นชื้นไม้ MDF หรือ แผ่น Honey com
หน้าบานประตูHDF แผ่นหน้าบานผลิตจากแผ่นใยไม้ความหนาแน่นสูง HDF (HIGH DENDITY FIBERBOARD) ทำให้บานประตูHDF มีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี
ข้อดีของบานประตู HDF
ข้อจำกัดของบานประตูHDF
มาตรฐานบานประตูHDF บานไม้ประกอบ มอก. 192-2549
ข้อแนะนำการจัดเก็บรักษาบานประตู HDF
การทำสีบานประตู HDF
ที่มา : DoorThai.com
ใช้ประตู หน้าต่าง อลูมิเนียม อบสี ขาว หรือ ดำ |
ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม (Aluminum Doors & Windows)
ส่วนประกอบของประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียม
- เฟรมอะลูมิเนียม ที่ได้จากการนำแร่บอกไซด์มาถลุงจนได้อลูมิน่าบริสุทธิ์ และนำอลูมิน่าเข้าหลอมจนได้เป็นแท่งอะลูมิเนียมบริสุทธิ์ แล้วนำไปแปรรูปด้วยแม่พิมพ์ที่มีขนาด และรูปทรงหน้าตัดที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้เส้นอะลูลิเนียมโปรไฟล์สำหรับใช้ในงานระบบประตู-หน้าต่าง ที่เหมาะสมกับประเภทการใช้งานแต่ละแบบ
- กระจกธรรมดา กระจกเทมเปอร์ กระจกลามิเนต กระฉนวนกันความร้อน ฯลฯ
- ฟิตติ้ง และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ
- ซิลิโคน ซีล
ประเภทการนำไปใช้งาน
การนำไปใช้งานในส่วนของประตูเฟรมอะลูมิเนียม จะมีประเภทของบาน 5 รูปแบบ คือ ประตูบานเปิด ,ประตูบานสวิง ,ประตูบานเฟี้ยม ,ประตูบานหมุน และประตูบานเลื่อน
การนำไปใช้งานในส่วนของหน้าต่างเฟรมอะลูมิเนียม จะมีประเภทของบาน 6 รูปแบบ คือ หน้าต่างบานเปิด ,หน้าต่างบานเลื่อน ,หน้าต่างบานยก ,หน้าต่างบานกระทุ้ง ,หน้าต่างบานพลิก และหน้าต่างบานเกล็ด
คุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว
อะลูมิเนียมจัดเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติไม่ก่อให้เกิดสนิม ทนฝน (อะลูมิเนียมเกรดสูงๆจะป้องกันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ทนแดด หรือ ความร้อนได้ดี มีมวลโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน จึงคงรูปไม่เกิดการบิดงอ สามารถใช้ทดแทนไม้ เหล็ก และ พลาสติคได้ นอกจากนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้งานในการตกแต่งได้อย่างหลากหลาย มีความสวยงามทันสมัย อีกทั้งยังใช้ร่วมกับฟิตติ้ง หรือ อุปกรณ์ประกอบอื่นๆได้ง่าย
ข้อควรระวังในการใช้งาน
อะลูมิเนียมเป็นวัสดุที่ไม่ทนต่อแรงกระแทกแรงๆ หรือ แรงกดทับหนักๆจนเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดรอยขูดขีด ถลอก หรือรอยบุบได้ง่าย และไม่ได้เป็นฉนวนกันความร้อน/เย็นที่ดีเท่าใหร่นัก นอกจากนี้การเชื่อมต่อด้วยระบบจัดยึด น๊อต สกรู ถ้าหากประกอบติดตั้งไม่ดีอาจทำให้น้ำ อากาศ และเสียงรบกวน สามารถเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้
ขนาด
ความหนาของหน้าตัดอะลูมิเนียม (ความหนาโปรไฟล์) ยิ่งหนายิ่งทนทาน ซึ่งในท้องตลาดจะมีความหนาตั้งแต่ 1.0 ,1.2 ,1.5 ,1.7 ,1.8 ,2.0 และ 2.5 mm.
การเคลือบสี
กรรมวิธีการทำสีเคลือบเนื้ออะลูมิเนียมในปัจจุบัน สามารถแบ่งประเภทการทำสีได้ดังนี้
การชุบสี (Anodize) มีให้เลือกหลากเฉดสี แต่จะให้เนื้อสีที่ค่อนข้างบาง รอบขูดขีดเล็กน้อยก็อาจทะลุถึงเนื้อในได้
การพ่นฝุ่นอบสี( Powder Coatings) กรรมวิธีนี้จะมีเนื้อสีที่ค่อนข้างหนา มีความมันวาว มีให้เลือกหลากเฉดสี เช่น สีลายไม้ สำน้ำตาล สีเงิน สีดำ สีขาว สีชา ฯลฯ
การพ่นฝุ่นอบสีแบบผิวทราย ( Powder Coatings Texture Sahara ) กรรมวิธีนี้จะให้พื้นผิวที่มีความหยาบ สาก โทนสีที่ได้รับความนิยม คือ สีดำ สีเงิน สีชา สีเทา ฯลฯ โดยสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความหรูหราได้มากกว่าการเคลือบสีแบบอื่นๆชัดเจน
ข้อมูล : https://www.wazzadu.com ผู้เขียน : Encyclopedia
มุงด้วยกระเบื้องคอนกรีต ซีแพคโมเนีย ของ CPAC หรือ ตราเพชร
หลังคาบ้าน เป็นชิ้นส่วนที่ได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์มากที่สุดของตัวบ้าน หน้าด่านแรกป้องกันไอร้อนก่อนจะถ่ายทอดความระอุลงสู่พื้นที่ภายใน ฉะนั้นแล้วเราจึงควรใส่ใจกับการเลือกใช้วัสดุแผ่นหลังคาตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบก่อสร้าง เพื่อลดการสะสมอุณหภูมิที่อยู่ในหลังคา บรรเทาการถ่ายเทความร้อน และช่วยเพิ่มความเย็นสบายให้กับบรรยากาศของบ้าน
กระเบื้องคอนกรีต หรือ กระเบื้องซีเมนต์ : หลังคาบ้านพักอาศัยที่หาซื้อง่าย แข็งแรงและสวยงาม แต่มีน้ำหนักมาก จึงควรใช้โครงสร้างที่มีความแข็งแรงเช่นกัน เพี่อรองรับน้ำหนักของตัววัสดุ อย่างหลังคาเหล็ก เป็นต้น
สีสวย ทนนาน ด้วยกรรมวิธีพ่นสีแบบ Wet on Wet พ่นสีในขณะที่ตัวกระเบื้องยังเปียกอยู่ ทำให้เนื้อสีติดประสานเป็นเนื้อเดียวกับกระเบื้อง สีจึงติดทนนาน
การเลือกซื้อกระเบื้องคุณภาพดี ควรจะเลือกซื้อตะปูคุณภาพ สำหรับกระเบื้องไปด้วย เพราะจะได้มั่นใจว่าไม่เกิดสนิมขึ้นเมื่อติดตั้งไปแล้ว .. กระเบื้องทนแล้ว วัสดุอื่นๆก็ควรเลือกรุ่นที่คงทนตามไปด้วย
มิติใหม่แห่งความงดงามของกระเบื้องคอนกรีตรูปลอนโค้งสูงสไตล์อิตาลี สวยงาม คลาสสิค สร้างมิติจากแสงและเงาได้มากกว่า ด้วยสีพิเศษ Tri Tone Color ที่มีถึง 3 เฉดสีบนกระเบื้องแผ่นเดียว รวมถึงการเคลือบด้วยเทคโนโลยี Super Coating ที่ทำให้สีคงทนกว่าการเคลือบสีกระเบื้องคอนกรีตทั่วไป
• รูปลอนกระเบื้องโค้งสูงสไตล์อิตาลี สวยงาม คลาสสิค
• ก้าวล้ำนำเทรนด์ด้วยสีพิเศษ Tri Tone Color มีถึง 3 เฉดสีบนกระเบื้องแผ่นเดียว ช่วยให้หลังคาบ้านโดดเด่น ไม่เหมือนใคร
• การเคลือบด้วยเทคโนโลยี Super Coating ด้วยการพ่นสารเคลือบสูตรพิเศษ ทำให้สีของกระเบื้องคงทนกว่า
• ผิวกระเบื้องสีกึ่งด้าน เรียบหรูทุกมุมมอง
ขนาดกระเบื้อง กว้าง x ยาว (ซม.) | 33x42 |
น้ำหนัก (กก./แผ่น) | 4.7 |
ปริมาณการใช้งาน (แผ่น/ตร.ม.) | 10-11 |
ระยะแป (ซม.) | 32-34 |
ความลาดชันที่แนะนำในการติดตั้ง | มากกว่าหรือเท่ากับ 25 (องศา) |
วิธีการติดตั้งครอบหลังคา | ใช้ปูนทราย หรือ ระบบครอบแห้ง (Dry Fixed System) |
อ้างอิง : www.dbp.co.th
โรงสร้างเหล็กรูปพรรณ ทาสีกันสนิม วางเหล็กตามรายการคำนวนของวิศวกร / แปสำเร็จรูปกัลป์วาไนซ์ หนา 0.70 mm
เหล็กรูปพรรณ คือ เหล็กโครงสร้างอาคารที่มีรูปแบบหน้าตัดหลากหลาย ใช้เป็นโครงสร้างอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น เสา คาน คอสะพาน เป็นต้น โดยรูปแบบของหน้าตัด และกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน จะส่งผลต่อการนำไปใช้งาน
ใช้แผนยิปซั่มบอร์ด 9mm. ขอบลาด
ฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ด
ฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดเป็นฝ้าเพดานที่ได้รับความนิยม เนื่องจาก หาช่างทำง่าย วัสดุหาง่าย ราคาไม่แพง ติดตั้งได้รวดเร็ว และสวยงาม
ยิปซั่มบอร์ด ผลิตจากแร่ยิปซั่ม มีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่ติดไฟ ทนไฟได้นาน ระยะเวลาสัก 2-4 ชม. แผ่นยิปซั่มมีความหนา 9 มม. 12 มม. และ 15 มม. ขนาดแผ่นกว้าง 1.20 ม. ยาว 2.40 ม. และมีหลายชนิดให้เลือกใช้
ราคามีตั้งแต่ 140 – 300 บาท ต่อแผ่น ขึ้นอยู่กับแผ่นที่ปิดผิว
ปัจจุบันแผ่นยิปซั่มบอร์ดได้มีการพัฒนาให้มีคุณสมบัติแตกต่างกันมากมาย ได้แก่
- แผ่นยิปซัมรุ่นมาตรฐาน สีขาว จะมีกระดาษปิดทับทั้งสองด้าน ไว้ใช้ทำผนังและฝ้าเพดานทั่วๆไป
- แผ่นยิปซัมทนความชื้น จะเห็นเป็นผิวสีเขียว เหมาะกับการใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่นห้องน้ำ ห้องครัว ฝ้าเพดานภายนอกอาคาร
- แผ่นยิปซัมทนไฟ จะเห็นเป็นสีชมพู เหมาะกับการใช้งานในห้องที่มีความร้อนสูง (ทนเพลิงไหม้ได้ 3 ชั่วโมง โดยไม่ร่วงหล่น) เหมาะสำหรับทำฝ้าเพดาน
และฝาผนังอาคารสูง ที่ต้องการอัตราการป้องกันไฟสูง เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ช่องลิฟท์ทางหนีไฟ และผนังอาคารต่างๆ
- แผ่นยิปซัมกันร้อนติดอลูมิเนียมฟอยล์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการสะท้อนรังสีความร้อนได้สูงถึง 95% ติดไว้ด้านหลังของแผ่นยิปซั่ม ช่วยลดความร้อนภายในได้ดี นิยมติดตั้งบริเวณฝ้าของห้องใต้หลังคา
- แผ่นยิปซั่มสำหรับดัดโค้ง มีความหนา 6มม ซึ่งสามารถดัดโค้งได้ดีในรัศมีที่แคบ โดยไม่ต้องใช้น้ำหรือเครื่องมือช่วย
การเลือกใช้งาน
ฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดถ้าใช้กับงานฝ้าเพดาน จะใช้ที่ความหนา 9 มม. ใช้ประกอบกับโครงเคร่าโลหะอาบสังกะสี โดยการเสปคโครงเคร่าก็มีความสำคัญ เวลาช่างแจ้งราคา ต่อ ตร.ม. ต้องสอบถามด้วยว่าใช้แผ่นยิปซั่มของแบรนด์อะไร โครงเคร่าเบอร์อะไร เพราะแต่ละยี่ห้อราคาแตกต่างกัน การเลือกโครงเคร่า ก็ให้ดูที่เบอร์ของโครง ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เบอร์ 26 แต่หากเป็นงานที่ต้องการความแข็งแรงของโครงเคร่า และติดตั้งแล้วฝ้าเนียนเรียบไม่เป็นลอน ก็ควรใช้เบอร์ 24 ซึ่งโครงเคร่าเบอร์นี้จะมีความแข็งแรงมากกว่า
ส่วนการเลือกประเภทของแผ่น ก็ควรเลือกจากแบรนด์ที่ต้องการ และความต้องใช้งาน เช่น ทนความชื้น หรือไม่ ต้องการแบบสะท้อนความร้อนหรือไม่
การติดตั้งดวงโคมที่มีน้ำหนักมากๆ ไม่ควรติดตั้งโดยแขวนกับโครงเคร่าของฝ้าเนื่องจาก ไม่ได้ผลิตมาเพื่อรับน้ำหนักดวงโคม การแขวนดวงโคมที่มีน้ำหนักมากๆ ควรทำโครงเสริมเพื่อแขวนโคมต่างหาก
การตรวจสอบ
ก่อนที่ช่างจะทาสีหรือติดตั้งควรตรวจสอบที่ตัวแผ่นและโครงเคร่าว่าเป็นแบรนด์ตามที่ได้เสปคหรือระบุกับช่างไปหรือไม่
คุณสมบัติ
- น้ำหนักเบา แผ่นยิปซั่มและโครงเคร่ามีน้ำหนักเบา เหมาะกับพื้นที่งานต่อเติมที่ไม่ต้องการให้อาคารรับน้ำหนักมากเกินไป
- แผ่นยิปซั่มแข็งแต่เปราะ สามารถใช้คัตเตอร์ในการตัด เจาะได้
- ติดตั้งง่าย และรวดเร็ว
- ผิวเนียนเรียบ ไร้รอยต่อ
- หาวัสดุ และช่างได้ง่าย
- ช่วยลดเสียง และความร้อนได้
- ช่วยปิดบังท่อต่างๆเหนือเพดาน ทั้งท่อประปา ท่อแอร์ ท่อไฟต่างๆ
ข้อควรระวังในการใช้งาน
- ควรทาสีรองพื้นก่อนทาสีจริง เพื่อให้เนื้อสียึดเกาะกับฝ้าเพดานได้ดียิ่งขึ้น สีไม่โป่งพอง
- การทาสีเข้มมากๆบนฝ้าเพดาน ในบริเวณที่มีแสงธรรมชาติ หรือแสงไฟส่องเข้ามา อาจทำให้เห็นลอนของโครงเคร่าได้ง่าย หากช่างติดตั้งไม่มาตรฐาน
- แผ่นยิปซั่มถูกปิดทับด้วยกระดาษทั้งสองด้าน หลายคนเคยมีประสบการณ์ปลวกกินแผ่นยิปซั่ม จริงๆแล้วปลวกนั้นกินกระดาษที่ปิดทับแผ่นยิปซั่มนั้นเอง
ที่มา : www.wazzadu.com โดย : Encyclopedia
โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เหล็กข้ออ้อย SD30 เหล็กกลม SR24
photo : เหล็กข้ออ้อย ภาพจาก : Homeone โฮมวัน
เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) เป็นเหล็กที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างเสริมคอนกรีตที่ต้องการโครงสร้างแข็งแรง เช่น อาคารสูง สะพาน เขื่อน บ้านที่อยู่อาศัย เป็นต้น มีลักษณะเป็นเส้นกลมที่มีบั้ง ผิวของเหล็กจะมีลักษณะเป็นปล้องๆอยู๋ตลอดเส้น เหล็กข้ออ้อยจะรับแรงได้มากกว่าเหล็กเส้นกลมเรียง จะให้ผลที่ดีต่อการรับน้ำหนักมากกว่า การเลือกใช้ชนิดของเหล็กเส้นข้ออ้อย SD30 ก็ขึ้นอยู่กับชนิดโครงสร้างเป็นสำคัญ
ลักษะเหล็กที่ดีมีคุณภาพควรมีข้อพิจารณา 4 ประการ
ที่มา : www.homeone.co.th